ภัยไซเบอร์ปี 2025 ไม่ได้เพิ่มขึ้นแค่ “จำนวน” แต่ฉลาดขึ้น, ซ่อนตัวมากขึ้น, และอาศัยช่องทางที่เราเชื่อถือ
(เช่น TLS, USB)
https://wgrd.tech/3L1GbIL
องค์กรที่มุ่งเน้นเฉพาะ “ขอบเขตป้องกันรอบนอก” จะเริ่มมองไม่เห็นภัยภายในเครือข่ายของตนเอง
1. ภาพรวมของสถานการณ์ภัยไซเบอร์ (Q2 2025)
รายงานของ WatchGuard ชี้ว่าในไตรมาส 2 ปี 2025
มีการเปลี่ยนแปลงสำคัญในพฤติกรรมของภัยคุกคาม
| ตัวชี้วัด | การเปลี่ยนแปลง |
| มัลแวร์โดยรวม | เพิ่มขึ้น 15% |
| มัลแวร์แบบซ่อนตัว (Evasive) | เพิ่มขึ้น 40% โดยส่วนใหญ่ผ่านการเข้ารหัส (TLS) |
| มัลแวร์แบบ Zero-Day / ไม่รู้จักมาก่อน | คิดเป็น 76% ของทั้งหมด |
| มัลแวร์ในทราฟฟิกเข้ารหัส (TLS) | คิดเป็น 70% ของมัลแวร์ทั้งหมด |
| แรนซัมแวร์ | ลดลง 47% (แต่โจมตีเป้าหมายขนาดใหญ่และสำคัญมากขึ้น) |
| การโจมตีผ่านเครือข่าย (Network Attacks) | เพิ่มขึ้น 8.3% แต่มีชนิดลดลง |
| ภัยคุกคามผ่าน USB | ปรากฏกรณี “PUMPBENCH” และ “HIGHREPS” ขุดเหรียญ Monero |
2. วิเคราะห์แนวโน้มสำคัญ
(A) การเข้ารหัสกลายเป็น “สนามรบใหม่”
มัลแวร์กว่า 70% เดินทางผ่านการเชื่อมต่อ TLS ที่องค์กรเชื่อถือ
→ แปลว่าผู้โจมตีใช้ “ความปลอดภัย” ที่ควรจะปกป้องข้อมูล กลับมาเป็นเกราะซ่อนมัลแวร์
ความหมาย:
- ระบบที่ไม่ตรวจสอบทราฟฟิก TLS เชิงลึก (SSL Inspection) จะ “มองไม่เห็น” ภัยที่วิ่งอยู่ในช่องทางปลอดภัย
- เป็นช่องโหว่ใหญ่สำหรับองค์กรที่ต้องรักษาความเป็นส่วนตัว แต่ไม่มีระบบวิเคราะห์เชิงพฤติกรรมหรือ sandboxing
(B) การเพิ่มขึ้นของมัลแวร์แบบ Zero-Day และ Polymorphic
76% ของมัลแวร์ทั้งหมดเป็นชนิดใหม่หรือถูกดัดแปลงแบบไม่ซ้ำกัน
ความหมาย:
- การตรวจจับด้วย signature อย่างเดียวเริ่มใช้ไม่ได้ผล
- ต้องอาศัยเทคนิค AI / Machine Learning, การตรวจพฤติกรรม, และการวิเคราะห์แบบ cloud-based เพื่อระบุภัยที่ไม่เคยเห็นมาก่อน
(C) การลดลงของแรนซัมแวร์ ≠ ภัยลดลงจริง
แรนซัมแวร์ลด 47% แต่รายงานบอกว่า “กลุ่มอาชญากรเน้นโจมตีเป้าหมายใหญ่”
ความหมาย:
- ปริมาณอาจลด แต่ความเสียหายต่อ องค์กรหนึ่ง สูงขึ้นมาก (เช่น Critical Infrastructure, Healthcare, Finance)
- แสดงให้เห็นการเปลี่ยนกลยุทธ์ จากโจมตีแบบ “กวาดทั่ว” → “เน้นคุณภาพและผลลัพธ์”
(D) การกลับมาของภัยผ่าน USB และ อุปกรณ์จริง
พบมัลแวร์ “PUMPBENCH” และ “HIGHREPS” แพร่ผ่าน USB พร้อมติดตั้ง XMRig (ขุดเหรียญ)
ความหมาย:
- ในบางองค์กรที่ปิดจากอินเทอร์เน็ต (air-gapped systems) ช่องทาง USB กลับเป็นทางเข้าที่นิยม
- ต้องมีกฎควบคุมสื่อพกพา (Device Control / Endpoint Protection)
(E) DNS และ C2 ยังเป็นช่องทางหลัก
มัลแวร์ยังใช้ DNS ในการสื่อสารกับเซิร์ฟเวอร์ C2 (DarkGate RAT)
ความหมาย:
- ระบบป้องกันที่ตรวจ DNS หรือติดตั้ง Threat Intelligence feed ยังจำเป็นมาก
- DNS Filtering / Monitoring ช่วยตรวจจับก่อนการโหลด payload จริงได้
3. ผลกระทบเชิงกลยุทธ์ / ข้อแนะนำ
สำหรับองค์กร (Enterprise / SMB)
- เพิ่มการมองเห็นทราฟฟิก TLS
- ใช้ระบบ TLS Inspection หรือ Proxy ที่ตรวจมัลแวร์ในทราฟฟิกเข้ารหัส
- หากติดข้อจำกัดด้าน privacy ให้ใช้เทคนิค behavioral analytics แทน
- เน้นระบบ EDR/XDR และ Zero-Trust
- ต้องมีการตรวจจับพฤติกรรมที่ผิดปกติ ไม่อาศัย signature เพียงอย่างเดียว
- บูรณาการข้อมูลจาก Network + Endpoint + Identity
- เสริม DNS Security และ Threat Intelligence
- ตรวจสอบโดเมนแปลกใหม่, บล็อก C2, และอัปเดต IoC เป็นประจำ
- ตรวจสอบโดเมนแปลกใหม่, บล็อก C2, และอัปเดต IoC เป็นประจำ
- ควบคุมอุปกรณ์พกพา / USB
- ปิดการทำงานอัตโนมัติของ USB ในระบบสำคัญ
- ใช้โซลูชันที่ตรวจจับ Malicious Device Injection
- สร้างวัฒนธรรมความปลอดภัยในองค์กร
- ฝึกอบรมผู้ใช้เรื่อง phishing, macro, dropper
- สื่อสารความสำคัญของการไม่เปิดไฟล์แนบหรือเปิด macro โดยไม่จำเป็น
นี่คือเหตุผลว่าทำไมการมี โซลูชันความปลอดภัยครบวงจรอย่าง WatchGuard จึงไม่ใช่แค่การเลือกที่ชาญฉลาด แต่เป็นการลงทุนเพื่อความมั่นคงของธุรกิจในระยะยาว
📞 ติดต่อเราเพื่อ Demo
📧 หรือขอใบเสนอราคาพิเศษวันนี้! หากท่านสนใจทดลองใช้สามารถ ลงทะเบียนเพื่อขอทดลองได้ฟรี 30 วัน
Credit https://www.watchguard.com
