ปกป้ององค์กรของท่านด้วย Panda Adaptive Defense 360 (WatchGuard EPDR) ซึ่งเป็น cloud endpoint protection + EDR product ระดับสูงสุด ที่ใช้งานแบบ cloud centralized management ปัจจุบันมีการพัฒนามาอย่างมากนับจากวันแรกที่ออกสู่ตลาดเป็นเจ้าแรกของโลกตั้งแต่ปี 2014 รวมถึงรุ่นน้องเล็ก Panda Endpoint Protection Plus (WatchGuard EPP) อันเป็นระบบการป้องกันขั้นพื้นฐานที่ใช้งานง่ายและมีการใช้อย่างแพร่หลายมากกว่า 11 ปี
สำหรับการอัพเดทครั้งใหญ่ของ Panda นี้จะเริ่มทยอย release ในช่วงเดือนสิ้นเดือน มีนาคม-พฤษภาคม 2022 เป็นต้นไป โดยจะมีไฮไลท์อะไรเด่น ๆ กันบ้างนั้น อ่านต่อกันเลย!
สรุปการ update
(Included in all the Endpoint Core Product)
- การป้องก้นโดยรวมที่สูงขึ้น โดยเฉพาะจาก ransomware และการอาศัย exploit, fileless และ malwarelesss attack
- เพิ่มเทคโนโลยี Decoy files เข้ามาในทุกรุ่นของ Panda และ WatchGuard Endpoint Security
- เพิ่มเทคโนโลยี Deep Learning เข้ามาเป็นแบบ local
- เสริมความแข็งแกร่งฟังก์ชั่น anti-tampering ด้วย ELAM inclusion
- ฟังก์ชั่นใหม่ เสริมการป้องกัน Anti-Tamper ให้ Shadow Copies ไม่ถูกรบกวนโดยภัยคุกคามภายนอก
- VPN Enforcement
- ใช้งานควบคู่กับ WatchGuard Firebox
- ผู้ใช้งาน Firebox สามารถกำหนดให้เฉพาะ VPN เข้าถึงข้อมูลองค์กรได้เมื่อ endpoint protection กำลัง active และทำงานอยู่
- และการปรับปรุงด้านอื่น ๆ เช่น dashboard ใหม่ของ add-on: Patch Management, เพิ่มฟังก์ชั่นค้นหา recovery keys ด้วย add-on: Full Encryption และอื่น ๆ
สำหรับฝั่ง end user นั้นไม่ต้องทำอะไรเป็นพิเศษ เพียงทำให้เครื่องออก internet ได้ ไม่ว่าจะผ่านเครื่อง cache ภายใน subnet เดียวกัน หรือออก internet เองโดยตรง ระบบจะดำเนินการให้อัตโนมัติ (หากไม่ได้ทำการตั้งค่า disable auto update ไว้)
หมายเหตุ: สำหรับการรองรับ iOS mobile และ tablet ที่จะมีฟังก์ชั่น Anti-Theft: Geolocation, remote alarm, remote wipe, URL Filtering, Malware URLs and Phishing protection นั้นคืบหน้าไปมากแล้ว แต่ยังไม่ได้ปล่อยมาใน update นี้ เนื่องจากยังมีบางส่วนที่ต้องพัฒนาเพิ่มเติมก่อนออกสู่ผู้ใช้งานทั่วไปได้