SSO กับการเปลี่ยนผ่านสู่ Digital Workplace

SSO กับการเปลี่ยนผ่านสู่ Digital Workplace

SSO กับการเปลี่ยนผ่านสู่ Digital Workplace ทางลัดสู่ความปลอดภัยและประสิทธิภาพในยุคที่การทำงานไม่ได้จำกัดอยู่แค่ในออฟฟิศอีกต่อไป

การเปลี่ยนผ่านสู่ Digital Workplace จึงกลายเป็นหนึ่งในกลยุทธ์สำคัญขององค์กรทุกขนาด การเข้าถึงระบบต่าง ๆ ผ่านอินเทอร์เน็ต, แอปพลิเคชัน Cloud, และการใช้งานหลายอุปกรณ์ในเวลาเดียวกัน ล้วนเป็นองค์ประกอบสำคัญที่ทำให้การบริหารจัดการด้าน IT ซับซ้อนและเสี่ยงต่อภัยคุกคามทางไซเบอร์มากขึ้น

หนึ่งในเครื่องมือที่จะช่วยให้องค์กรเปลี่ยนผ่านเข้าสู่ยุค Digital Workplace ได้อย่างมั่นใจและมีประสิทธิภาพมากขึ้น คือระบบ Single Sign-On (SSO) โดยเฉพาะเมื่อทำงานร่วมกับโซลูชันด้านความปลอดภัยอย่าง WatchGuard ที่ให้ความสามารถแบบครบวงจร


ทำความเข้าใจ Digital Workplace

Digital Workplace คือสภาพแวดล้อมการทำงานที่รวมเครื่องมือดิจิทัลต่าง ๆ เข้าด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นอีเมล ระบบแชร์ไฟล์ วิดีโอคอลล์ ระบบจัดการโปรเจกต์ หรือแอปพลิเคชันทางธุรกิจ เช่น CRM, ERP ฯลฯ จุดเด่นของ Digital Workplace คือความยืดหยุ่น ความสามารถในการทำงานจากที่ไหนก็ได้ และเพิ่มประสิทธิภาพการสื่อสารในทีม

แต่ข้อดีเหล่านี้ก็แฝงมาด้วยความท้าทายด้าน ความปลอดภัย โดยเฉพาะการจัดการบัญชีผู้ใช้งานจำนวนมาก ที่เข้าถึงระบบจากหลากหลายอุปกรณ์และเครือข่าย


ความท้าทายที่มาพร้อมกับการเปลี่ยนผ่าน

การเปลี่ยนจากการทำงานแบบดั้งเดิมเข้าสู่ Digital Workplace ทำให้องค์กรต้องเผชิญกับความเสี่ยงดังนี้:

  • ผู้ใช้มี หลายบัญชี (Multiple Accounts) ต้องจดจำรหัสผ่านจำนวนมาก
  • มีความเสี่ยงจากการใช้ รหัสผ่านซ้ำ หรือรหัสผ่านอ่อนแอ
  • Helpdesk ใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการ รีเซ็ตรหัสผ่าน
  • การเข้าถึงระบบที่ไม่มีการยืนยันตัวตนแบบรัดกุมเสี่ยงต่อ การโจมตีแบบ Phishing หรือ Credential Theft
  • ยากต่อการควบคุมและตรวจสอบว่าใครเข้าถึงอะไรบ้าง

เพื่อแก้ปัญหาเหล่านี้ องค์กรจำนวนมากเริ่มหันมาใช้ SSO (Single Sign-On) เพื่อรวมศูนย์การยืนยันตัวตนให้ปลอดภัยและง่ายขึ้น


SSO คืออะไร? ทำไมจึงสำคัญ?

Single Sign-On (SSO) คือระบบที่ให้ผู้ใช้งานล็อกอินเพียงครั้งเดียว แล้วสามารถเข้าถึงแอปพลิเคชันหรือระบบต่าง ๆ ภายในองค์กรได้ทั้งหมด โดยไม่ต้องใส่รหัสผ่านซ้ำหลายครั้ง

ข้อดีของ SSO ในบริบทของ Digital Workplace ได้แก่:

  • ลดความซับซ้อนในการเข้าสู่ระบบ ผู้ใช้ไม่ต้องจำรหัสผ่านหลายชุด
  • เพิ่มความปลอดภัย โดยสามารถผนวกกับระบบ Multi-Factor Authentication (MFA) ได้
  • เพิ่ม Productivity ของพนักงาน เพราะลดเวลาในการล็อกอินและปัญหาเรื่องลืมรหัสผ่าน
  • ฝ่าย IT ควบคุมการเข้าถึงได้ดีขึ้น สามารถจัดการสิทธิ์ผ่าน Active Directory หรือ LDAP
  • ลดภาระงานของ Helpdesk เพราะลดปัญหาเรื่องรหัสผ่านลืมหรือถูกล็อก

WatchGuard SSO: ทางเลือกที่ครบวงจรสำหรับองค์กรยุคใหม่

WatchGuard เป็นหนึ่งในโซลูชันด้านความปลอดภัยเครือข่ายที่เชื่อถือได้ทั่วโลก โดย WatchGuard มีระบบ SSO ที่ถูกออกแบบมาให้ใช้งานง่าย ปลอดภัย และสามารถเชื่อมต่อกับโครงสร้างพื้นฐานขององค์กรได้ทันที

คุณสมบัติเด่นของ WatchGuard SSO:

  • รองรับการเชื่อมต่อกับ Active Directory / LDAP อย่างสมบูรณ์
  • ผนวกการยืนยันตัวตนแบบ Multi-Factor Authentication (MFA) ได้อย่างราบรื่น
  • รองรับการใช้งานทั้งบน Cloud, VPN และ On-premises
  • ใช้งานได้กับอุปกรณ์หลากหลาย รวมถึง Mobile, Desktop และ Web Applications
  • สามารถทำงานร่วมกับระบบ WatchGuard Firebox, AuthPoint และ Cloud Portal

ด้วยความสามารถเหล่านี้ WatchGuard SSO จึงเป็นตัวช่วยสำคัญในการผลักดันองค์กรสู่ Digital Workplace อย่างปลอดภัย


กรณีการใช้งานจริง (Use Case)

องค์กรขนาดกลางที่มีพนักงานมากกว่า 300 คน เปลี่ยนมาใช้ระบบ SSO จาก WatchGuard โดยผนวกกับ AuthPoint (MFA) หลังจากใช้งานเพียง 1 เดือน:

  • เวลาที่ใช้ในการล็อกอินของพนักงานลดลงเฉลี่ย 30%
  • จำนวน Ticket ที่เกี่ยวข้องกับการรีเซ็ตรหัสผ่านลดลงกว่า 60%
  • ฝ่าย IT สามารถจัดการสิทธิ์ผู้ใช้งานได้แบบรวมศูนย์
  • รองรับการทำงานจากบ้าน (Remote Work) ได้อย่างมั่นใจและปลอดภัย

สรุป: ก้าวสู่ Digital Workplace อย่างมั่นใจ ด้วย WatchGuard SSO

การเปลี่ยนผ่านสู่ Digital Workplace ไม่ใช่แค่เรื่องของเทคโนโลยี แต่คือการเปลี่ยนวิธีการทำงานอย่างแท้จริง การจัดการการเข้าถึงอย่างปลอดภัยเป็นหัวใจสำคัญ และ WatchGuard SSO คือหนึ่งในเครื่องมือที่องค์กรไม่ควรมองข้าม

หากองค์กรของคุณกำลังมองหาโซลูชันด้านความปลอดภัยที่ตอบโจทย์ทั้ง การใช้งาน, ความสะดวก และความปลอดภัย WatchGuard SSO พร้อมเป็นทางเลือกที่ช่วยให้คุณก้าวเข้าสู่ยุค Digital Workplace ได้อย่างมั่นใจ


WatchGuard จะช่วยเสริมความแข็งแกร่งในการจัดการ Total Cybersecurity โดยครอบคลุมทุกด้านที่สำคัญในการป้องกันและรับมือกับภัยคุกคามทางไซเบอร์ ตั้งแต่การป้องกันเครือข่ายและอุปกรณ์ปลายทาง ไปจนถึงการป้องกันแอปพลิเคชันและข้อมูลที่จัดเก็บ รวมถึงการตรวจจับและตอบสนองต่อภัยคุกคามที่เกิดขึ้นแบบเรียลไทม์ WatchGuard พร้อมบริการสนับสนุนทางเทคนิคที่พร้อมช่วยเหลืออย่างเต็มที่ ให้คุณมั่นใจได้ในทุกขั้นตอนการใช้งาน หากท่านสนใจทดลองใช้สามารถ ลงทะเบียนเพื่อขอทดลองได้ฟรี 30 วัน

➡️ [ติดต่อเราเพื่อขอ Demo และใบเสนอราคา]

Credit https://www.watchguard.com

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *