หายห่วงตัวช่วยอุดช่องโหว่ระบบด้วย Patch Management ในยุคดิจิทัลปัจจุบันช่องโหว่ของซอฟต์แวร์มีมากขึ้น และภัยคุกคามทางไซเบอร์ก็มีความซับซ้อน
ทำให้ธุรกิจต้องมีการวางแนวทางในการรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์เพื่อลดความเสี่ยงของการละเมิดข้อมูล หนึ่งในวิธีที่สามารถช่วยคุณได้นี้คือการจัดการแพตช์
เราจะมาพูดถึงการแพตช์แอปพลิเคชั่นของ third party ที่อยู่ในเครื่องของคุณ
แอปพลิเคชั่น Third party คืออะไร ?
แอปพลิเคชั่น Third party คือโปรแกรมซอฟต์แวร์ใดๆ ที่ได้รับการพัฒนาโดยผู้จำหน่ายอื่นที่ไม่ใช่ผู้ผลิตอุปกรณ์หรือผู้ผลิตระบบปฏิบัติการ (เช่น Google Chrome, Adobe Acrobat Reader, TeamViewer, WinZip เป็นต้น) แอปเหล่านี้สามารถดาวน์โหลดและติดตั้งบนอุปกรณ์ได้ ไม่ว่าจะใช้ส่วนตัวหรือเพื่อธุรกิจ
ซึ่งการอัปเดตข้อมูลแพตช์ใหม่ที่ออกโดยผู้จำหน่ายซอฟต์แวร์จะช่วยแก้ไขจุดบกพร่อง และปัญหาอื่นๆ ในบทความนี้ เราจะพาคุณมารู้จักซอฟท์แวร์ที่ช่วยแพตช์แอปพลิเคชั่น third party การนำไปใช้เพื่อช่วยลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น
แอปพลิเคชั่น Third party แพตช์อะไร ?
อัปเดทปรับใช้แพตช์กับแอป third party ที่มีการติดตั้งในเครื่องของคุณ แก้ไขจุดบกพร่องหรือช่องโหว่ในซอฟต์แวร์ที่ส่งผลกระทบต่อฟังก์ชันหรือความปลอดภัย หรือปรับใช้เพื่อติดตั้งฟังก์ชันเพิ่มเติมในแอปพลิเคชัน
ทำไมการแพตช์แอป Third party จึงมีความสำคัญ ?
เพื่อให้เห็นภาพได้ชัดเจนการแพตช์ทั่วไป ที่ไม่มีแพตช์แอป third party อื่นสามารถช่วยรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ได้ อย่างไรก็ตามแอป third party ที่ไม่ได้ทำการแพตช์นั้นมีแนวโน้มที่จะตกเป็นเป้าหมายได้สูงกว่า
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา แอปพลิเคชัน third party ได้กลายเป็นเป้าหมายโจมตีหลักสำหรับการโจมตีทางไซเบอร์ที่จากรายงานระบุว่าประมาณ 75% ของการโจมตีทางไซเบอร์เกิดขึ้นเนื่องจากช่องโหว่ที่พบในแอปพลิเคชัน third party ดังนั้นคุณจึงไม่สามารถละเลยการแพตช์แอปพลิเคชัน third party ได้
ซึ่งแตกต่างจากการอัปเดตของ Windows ที่มีการออกแพตช์ทุกเดือนผ่าน Patch Tuesday เว้นแต่ว่าจำเป็นต้องปล่อย patch ทันที ผู้จำหน่ายแอปจากบริษัทอื่นจะไมีการกำหนดการปล่อยแพตช์อย่างสม่ำเสมอ เนื่องจากปัจจุบันองค์กรต่าง ๆ พึ่งพาแอป third party สำหรับการดำเนินงานประจำวัน ทำให้การติดตามดูว่าซอฟท์แวร์หรือแอปไหนที่ใช้งานอยู่มีการอัปเดทแพตช์ใหม่สำหรับอุดช่องโหว่แล้วหรือยัง ถ้าใช้ซอฟท์แวร์ไม่มากก็อาจจะพอติดตามได้ แต่ถ้าใช้ซอฟท์แวร์นับ 10 ตัวละต้องไปหาอัปเดทจากทั้ง 10 เว็บไซต์เลยก็ดูลำบากใช้เวลามากเกินไป ทำให้ยังมีช่องโหว่จากซอฟท์แวร์เหล่านี้อยู่ค่อนข้างมาก
ความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นเมื่ออัปเดทแพตช์ Third party
แม้ว่าการแพตช์เป็นทางออกที่ดีในการทำให้ซอฟต์แวร์ทั้งหมดทันสมัยอยู่เสมอ แต่ก็มีความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้ หนึ่งในความเสี่ยงนั้นคือ ตัวแพตช์และแอปพลิเคชันที่มีสามารถทำงานร่วมกันได้หรือไม่ แพตช์ third party อาจทำให้ระบบเกิดความไม่เสภียรส่งผลให้ระบบหยุดทำงาน
ยิ่งไปกว่านั้น บริษัทผู้ออกแพตช์อาจไม่มีการตรวจสอบแพตช์ที่ดีพอเท่ากับผู้จำหน่ายซอฟต์แวร์รายใหญ่ อาจทำให้ไม่มีการทดสอบที่ดีพอก่อนปล่อยแพตช์ออกมาไม่ดี กรณีที่เลวร้ายที่สุดคือเพิ่มช่องโหว่ใหม่ในระบบของคุณแทนที่จะแก้ไขของเดิม
ความเสี่ยงอีกข้อคือการดาวน์โหลดมัลแวร์ที่อ้างตัวว่าเป็นแพตช์ที่ถูกออกแบบมาเพื่อแก้ไขปัญหา ซึ่งแฮ็กเกอร์มักจะใช้ประโยชน์จากความไว้วางใจของผู้ใช้ที่มีต่อผู้ให้บริกา โดยสร้างการอัปเดทปลอมที่มีการฝังมัลแวร์เข้าไปแทน
จะดีกว่ามั้ย ถ้าเรามีตัวช่วยจัดการแพตช์แบบอัตโนมัติ ?
เนื่องจากบริษัทสมัยใหม่มีการใช้โปรแกรมซอฟต์แวร์กันเป็นจำนวนมาก ทำให้การจัดการแพตช์ Third party อาจเป็นงานที่น่ากังวลผู้จำหน่ายซอฟต์แวร์แต่ละ รายอาจออกแพตช์ในช่วงเวลาต่างกัน ทำให้ยากต่อการติดตามแพตช์ หากไม่สามารถจัดการแพตช์ของซอฟท์แวร์ third party ทั้งหมดภายในองค์กรอาจทำให้องค์กรของคุณเสี่ยงต่อการถูกโจมตีทางไซเบอร์ และการละเมิดข้อมูล
การเลือกใช้โซลูชันการแพตช์อัตโนมัติจะรับประกันได้ว่าแอปพลิเคชั่น third party ของคุณมีการอัปเดทอย่างสม่ำเสมอ ช่วยให้คุณไม่ต้องแพตช์ด้วยตนเอง ประหยัดเวลา ในขณะเดียวกันก็ช่วยรักษาอุปกรณ์ของคุณให้ปลอดภัยข้อดีอื่นๆ ของโซลูชันการแพตช์อัตโนมัติคือ
- ปฏิบัติตามกฎระเบียบ และมาตรฐานอุตสาหกรรม
- ใช้ทรัพยากรได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- ลดโอกาสที่เกิด Downtime
Patch & Asset Management ของเราเป็นตัวอย่างของเครื่องมือ patching อัตโนมัติที่แสดงถึงโซลูชัน all-in-one ที่ครอบคลุม ไม่เพียงแต่แอปของบริษัทอื่นจะได้รับการแพตช์ และรักษาความปลอดภัยอย่างต่อเนื่องเท่านั้น แต่ยังรวมถึงแอปสำหรับระบบปฏิบัติการ Windows, macOS หรือ Linux ทำให้คุณอุดช่องโหว่ได้อย่างทันท่วงทีเนื่องจากแพตช์ทั้งหมดที่ใช้งานผ่านโซลูชันของเราได้รับการทดสอบและเข้ารหัส นอกจากนี้คุณยังได้ส่วนเสริมเพิ่มเติม
- การตรวจสอบทรัพย์สินด้วยซอฟต์แวร์ และสินค้า
- การจัดการช่องโหว่
- การติตตั้งแพทช์อัตโนมัติ
ทั้งหมดนี้มาพร้อมการควบคุมแบบละเอียด เข้าถึงได้ทุกที่ทุกเวลาจากทุกที่ในโลก ยิ่งไปกว่านั้นยังสามารถปรับแต่งได้ตามที่คุณต้องการโซลูชันของเรารับประกันว่าเหมาะกับความต้องการของคุณมากที่สุด จองการสาธิตและทำให้การแพตช์ง่ายขึ้นด้วย Heimdal® Patch & Asset Management สามารถช่วยป้องกัน และสนับสนุนการจัดการช่องโหว่อย่างต่อเนื่องแบบอัตโนมัติ ซึ่งช่วยให้องค์กรของคุณสามารถตรวจพบช่องโหว่ และทำการวิเคราะห์ได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วยการแพตช์ช่องโหว่เหล่านั้น เพื่อให้โครงสร้างพื้นฐานของคุณปลอดภัย
หากสนใจสามารถขอทดลองใช้ฟรี 60 วัน ครบทุกฟีเจอร์ ไม่มีกั๊ก ไม่มีเงื่อนไขผูกมัดใด ๆ ทั้งสิ้น
Credit https://heimdalsecurity.com