WatchGuard Cloud: ยกระดับการป้องกันข้อมูลและการจัดการความปลอดภัยผ่านคลาวด์

WatchGuard Cloud ยกระดับการป้องกันข้อมูลและการจัดการความปลอดภัยผ่านคลาวด์

WatchGuard Cloud: ยกระดับการป้องกันข้อมูลและการจัดการความปลอดภัยผ่านคลาวด์

ในยุคที่ภัยคุกคามทางไซเบอร์มีความซับซ้อนและพัฒนาอย่างรวดเร็ว การมีโซลูชันที่สามารถตอบโจทย์การป้องกันและจัดการความปลอดภัยของระบบเครือข่าย

ได้จากทุกที่ทุกเวลาเป็นสิ่งที่ธุรกิจทุกขนาดต้องการ WatchGuard Cloud จึงเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับการรักษาความปลอดภัยเครือข่ายในยุคดิจิทัลนี้ ซึ่งไม่เพียงแต่จะช่วยตรวจสอบและจัดการความปลอดภัยจากระยะไกลเท่านั้น แต่ยังมอบความสามารถในการปรับแต่งและเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันภัยคุกคามที่อาจเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ

ความสามารถหลักของ WatchGuard Cloud ในการตรวจสอบและจัดการความปลอดภัย

WatchGuard Cloud คือแพลตฟอร์มการจัดการความปลอดภัยของระบบเครือข่ายที่พัฒนาโดย WatchGuard ซึ่งถูกออกแบบมาเพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถควบคุมและตรวจสอบสถานะความปลอดภัยได้จากทุกที่ผ่านอินเทอร์เน็ต ด้วยความสามารถหลักหลายประการ เช่น:

  1. การตรวจจับและตอบสนองภัยคุกคามแบบเรียลไทม์
    WatchGuard Cloud ช่วยให้ผู้ดูแลระบบสามารถตรวจจับกิจกรรมที่น่าสงสัยหรือการโจมตีที่อาจเกิดขึ้นได้ทันทีและตอบสนองได้อย่างรวดเร็ว ด้วยการใช้เทคโนโลยี Machine Learning และ AI ในการวิเคราะห์ข้อมูลที่ได้รับจากอุปกรณ์ต่างๆ บนเครือข่าย การตอบสนองจะมีประสิทธิภาพและแม่นยำมากขึ้น
  2. การรายงานและการวิเคราะห์ข้อมูลความปลอดภัย
    WatchGuard Cloud มาพร้อมกับเครื่องมือในการสร้างรายงานและวิเคราะห์ข้อมูลความปลอดภัยโดยอัตโนมัติ ผู้ใช้งานสามารถดูข้อมูลเกี่ยวกับภัยคุกคาม, การโจมตี, การเข้าใช้ระบบ หรือการใช้แบนด์วิธของเครือข่ายได้อย่างชัดเจนผ่านแดชบอร์ดที่ใช้งานง่าย การทำรายงานแบบเรียลไทม์นี้ช่วยให้ผู้ดูแลระบบสามารถตัดสินใจได้อย่างรวดเร็วและมีข้อมูลในการวางแผนการรักษาความปลอดภัย
  3. การจัดการอุปกรณ์และบริการจากศูนย์กลาง
    WatchGuard Cloud รองรับการจัดการอุปกรณ์จากศูนย์กลาง (Centralized Management) ซึ่งหมายความว่า ผู้ใช้งานสามารถจัดการอุปกรณ์ความปลอดภัยทั้งจากภายในสำนักงานและสำนักงานสาขาต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ จากการเชื่อมต่อผ่านคลาวด์ ไม่ต้องเสียเวลาในการตั้งค่าหรืออัปเดตแต่ละอุปกรณ์แยกกัน

ข้อดีของการใช้โซลูชันคลาวด์ในการป้องกันภัยคุกคาม

  1. การเข้าถึงจากทุกที่ทุกเวลา
    การจัดการความปลอดภัยจากคลาวด์ช่วยให้ผู้ดูแลระบบสามารถเข้าถึงข้อมูลและตรวจสอบสถานะการรักษาความปลอดภัยได้จากทุกที่ที่มีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต ทำให้ไม่จำเป็นต้องอยู่ในสำนักงานเพื่อจัดการกับปัญหาหรือภัยคุกคามที่เกิดขึ้น การทำงานจากระยะไกลจึงสะดวกและมีความยืดหยุ่นมากขึ้น
  2. ลดค่าใช้จ่ายและความซับซ้อนในการตั้งค่า
    การใช้โซลูชันคลาวด์ช่วยลดความจำเป็นในการลงทุนในฮาร์ดแวร์และการดูแลระบบที่ซับซ้อน WatchGuard Cloud สามารถลดค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาและการอัปเดตซอฟต์แวร์ให้เป็นเวอร์ชันล่าสุด เพราะทุกอย่างถูกจัดการผ่านระบบคลาวด์ที่มีการอัปเดตอัตโนมัติ
  3. ความปลอดภัยระดับสูง
    WatchGuard Cloud ใช้ระบบความปลอดภัยขั้นสูงในการปกป้องข้อมูลของผู้ใช้งาน เช่น การเข้ารหัสข้อมูล, การใช้หลายชั้นของการยืนยันตัวตน (Multi-factor Authentication), และการควบคุมการเข้าถึงที่เข้มงวด การมีระบบความปลอดภัยแบบนี้ทำให้มั่นใจได้ว่าข้อมูลขององค์กรจะได้รับการปกป้องจากภัยคุกคามที่อาจเกิดขึ้น
  4. การปรับขนาดได้ตามต้องการ
    ด้วยการใช้โซลูชันคลาวด์ ธุรกิจสามารถปรับขนาดความปลอดภัยตามความต้องการได้ง่ายๆ โดยไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับข้อจำกัดด้านทรัพยากร เนื่องจากบริการคลาวด์สามารถขยายขนาดการใช้งานได้ตามการเติบโตขององค์กร

ความสำคัญของการป้องกันภัยคุกคามในประเทศไทย

ในประเทศไทย การป้องกันภัยคุกคามทางไซเบอร์มีความสำคัญอย่างยิ่ง เนื่องจากมีการโจมตีจากแฮกเกอร์และกลุ่มอาชญากรไซเบอร์อย่างต่อเนื่อง ตัวอย่างเช่น ในปี 2023, ศูนย์กลางรักษาความปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ (National Cybersecurity Agency) ของไทยได้เปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับการโจมตีไซเบอร์ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการโจมตีที่มุ่งเน้นไปที่ข้อมูลขององค์กรภาครัฐและเอกชน การใช้โซลูชันคลาวด์อย่าง WatchGuard Cloud จึงเป็นการป้องกันที่สำคัญในการรักษาความปลอดภัยจากการโจมตีไซเบอร์ที่มาจากภายนอก และการโจมตีที่เกิดจากผู้ที่มีความรู้ทางเทคนิคภายใน

ประเทศไทยยังมีการป้องกันทางไซเบอร์ที่ค่อนข้างมีการพัฒนา เช่น การออก พระราชบัญญัติความมั่นคงไซเบอร์ ที่มีการกำหนดมาตรการเพื่อป้องกันการโจมตีในโลกออนไลน์และการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลภาครัฐและเอกชน การใช้เทคโนโลยีจาก WatchGuard Cloud ช่วยเสริมสร้างความปลอดภัยให้กับธุรกิจและองค์กรในประเทศไทย โดยเฉพาะในยุคที่การทำงานออนไลน์และการเชื่อมต่อแบบระยะไกล (Remote Work) กลายเป็นส่วนหนึ่งของการดำเนินธุรกิจในทุกวันนี้

โปรโมชั่นสิ้นปีจาก WatchGuard

เพื่อให้ธุรกิจของคุณสามารถยกระดับการรักษาความปลอดภัยได้ง่ายขึ้นในช่วงสิ้นปีนี้ WatchGuard มอบ โปรโมชั่นพิเศษ สำหรับการซื้อผลิตภัณฑ์และการสมัครใช้บริการ WatchGuard Cloud

  • ฟรี Trial 30 วัน สำหรับลูกค้าใหม่ที่สมัครใช้งาน WatchGuard Cloud
  • ส่วนลด 20% สำหรับการสมัครใช้งาน WatchGuard Cloud ในปีแรก
  • บริการสนับสนุนฟรี เช่น การให้คำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญในการตั้งค่าและการปรับแต่ง WatchGuard Cloud
  • ฟรีการฝึกอบรมออนไลน์ ในการใช้ WatchGuard Security Management Console สำหรับทีมงาน
  • การให้บริการประเมินความปลอดภัยฟรี จากทีมผู้เชี่ยวชาญของ WatchGuard เพื่อให้คำแนะนำในการปรับปรุงความปลอดภัยของระบบเครือข่าย

ซึ่งรวมถึงการได้รับส่วนลดพิเศษในการอัปเกรดหรือการติดตั้งอุปกรณ์ใหม่ๆ พร้อมบริการสนับสนุนทางเทคนิคที่พร้อมช่วยเหลืออย่างเต็มที่ ให้คุณมั่นใจได้ในทุกขั้นตอนการใช้งาน หากท่านสนใจทดลองใช้สามารถ ลงทะเบียนเพื่อขอทดลองได้ฟรี 30 วัน


การใช้ WatchGuard Cloud ในการจัดการความปลอดภัยไม่เพียงแต่จะช่วยให้ธุรกิจสามารถตรวจสอบและรับมือกับภัยคุกคามไซเบอร์ได้จากทุกที่ แต่ยังช่วยลดค่าใช้จ่ายและเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันระบบเครือข่ายจากภัยคุกคามต่างๆ หากคุณกำลังมองหาวิธีการเสริมความมั่นคงทางไซเบอร์ในองค์กรของคุณ อย่าพลาดที่จะทดลองใช้ WatchGuard Cloud พร้อมโปรโมชั่นพิเศษช่วงสิ้นปีนี้!

Credit https://www.watchguard.com

Reference

  1. National Cybersecurity Agency (NCSA). (2023). Cybersecurity in Thailand: Trends and Threats.
  2. Cybersecurity Thailand Report. (2023). Growth of Cyber Attacks in Thailand.

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *