WatchGuard ได้รับการยอมรับเป็น Leader และ Outperformer ด้าน Endpoint Detection & Response จากรายงาน GigaOm 2025
WatchGuard® Technologies ซึ่งเป็นผู้นำด้าน Unified Cybersecurity สำหรับ Managed Service Providers (MSPs) ได้รับการจัดอันดับให้เป็นทั้ง Leader และ Outperformer ในรายงาน 2025 GigaOm Radar for EDR (Endpoint Detection & Response) ในการประเมินผู้ให้บริการด้าน EDR กว่า 25 ราย โดยพิจารณาจากเกณฑ์ ได้แก่ Innovation, Execution, Deployment Models เพื่อช่วยให้ผู้บริหารด้านไอทีและความมั่นคงไซเบอร์เลือกโซลูชันที่เหมาะสมสำหรับองค์กรของตน
GigaOm ให้เหตุผลว่า WatchGuard ได้รับยกย่องในฐานะ “Outperformer” เนื่องจากมีชุดฟีเจอร์นวัตกรรมที่ครอบคลุม, มีการเปิดตัวอัปเดตอย่างสม่ำเสมอ (consistent release cadence) และมีการดำเนินงานตาม roadmap ที่ทะเยอทะยาน
การยอมรับในระดับนี้สะท้อนถึงจุดแข็งของ WatchGuard ที่สามารถรวมฟังก์ชัน prevention, detection, และ investigation ไว้ในแพลตฟอร์มเดียวที่ใช้งานง่ายต่อผู้ใช้ ซึ่งถือเป็นคุณสมบัติสำคัญเมื่อองค์กรต้องเผชิญกับภัยคุกคามที่เพิ่มความซับซ้อนขึ้นอย่างต่อเนื่อง

Andrew Young ผู้ดำรงตำแหน่ง Chief Product Officer ของ WatchGuard กล่าวว่า
“ลูกค้าของเรารับรู้ถึงการปกป้องที่ยกระดับผ่านความสามารถนวัตกรรมด้าน endpoint อย่าง Zero-Trust Application Service
และการได้รับยกย่องทั้งเป็น Leader และ Outperformer แสดงถึงความมุ่งมั่นของเราที่จะ simplify security พร้อมมอบการป้องกันที่ก้าวหน้าและเป็นเอกภาพผ่านแพลตฟอร์มที่เข้าใจง่าย”
ในรายงานดังกล่าว WatchGuard ได้รับการจัดให้อยู่ใน quadrant ที่เน้นด้าน Innovation / Platform Play พร้อมการยกย่องในองค์ประกอบต่าง ๆ ได้แก่
- AI-driven signal correlation
- การบังคับใช้ zero trust โดยค่าเริ่มต้น (default zero-trust enforcement)
- การลดความเสี่ยงจาก supply chain ผ่านการเชื่อมต่อกับ XDR (Extended Detection & Response)
- GenAI Telemetry Assistant ที่ช่วยให้ผู้วิเคราะห์ทำการสืบสวนด้วยการถามเป็นภาษาธรรมชาติ แปลงเป็น query telemetry ได้ทันที (เฉพาะรุ่น Advanced EPDR)
ฟีเจอร์เหล่านี้ส่งผลต่อการใช้งานจริง (real-world impact) สำหรับองค์กรและ MSPs โดยช่วยให้สามารถ:
- ระงับ malware ที่ไม่รู้จัก ได้ก่อนที่จะถูก execute
- ลด attack surface ด้วยนโยบายที่รวมศูนย์ (unified policies)
- ใช้ AI เพื่อ detection และ containment บน endpoint
- เร่งกระบวนการ investigation โดยใช้ GenAI Telemetry Assistant ซึ่งให้การวิเคราะห์ด้วยภาษาธรรมชาติ
- รวม alerts ที่เกี่ยวข้องเป็น incident-centric model บนไทม์ไลน์ที่สอดรับกับ MITRE ATT&CK พร้อมข้อมูล context และหลักฐาน root cause
- ลด noise ด้วย aggregation และ correlation โดย AI เพื่อให้ผู้วิเคราะห์จัดการหนึ่ง incident แทนที่ต้องรับมือหลาย alerts

ระบบ Advanced EPDR (Enhanced EDR / EPDR) ของ WatchGuard ได้รับการประเมินระดับสูง โดยเฉพาะฟีเจอร์ Zero-Trust Application Service ที่รวมอยู่ในรุ่น EPDR ด้วย ซึ่งทำหน้าที่จำแนกทุกแอปพลิเคชันก่อนที่จะอนุญาตให้รัน ช่วยหยุดภัยคุกคามใหม่ (zero-day) ได้ทันที
นอกจากนี้ ทาง WatchGuard ยังมีการจัด Roadshows ระดับโลก (Global Roadshows) เพื่อแสดงให้เห็นถึงศักยภาพของ Zero Trust และคุณสมบัติขั้นสูงของ Endpoint Protection โดยเน้นการป้องกัน workforce แบบ “everywhere” รับมือภัยคุกคามที่ขับเคลื่อนด้วย AI, และใช้ GenAI Telemetry Assistant ในการตรวจจับและตอบสนอง
WatchGuard ซึ่งมีสำนักงานใหญ่ที่ Seattle ดำเนินงานในหลายภูมิภาคทั่วโลก ได้รับความไว้วางใจจากผู้จัดจำหน่ายด้านความมั่นคงไซเบอร์มากกว่า 17,000 ราย เพื่อปกป้ององค์กรกว่า 250,000 แห่ง ด้วยผลิตภัณฑ์และบริการครอบคลุม เช่น Network Security, Advanced Endpoint Protection และ Multi-Factor Authentication