ข้อมูลส่วนตัวของคุณยังปลอดภัยดีอยู่หรือไม่ ?

ข้อมูลส่วนตัวของคุณยังปลอดภัยดีอยู่หรือไม่

ข้อมูลส่วนตัวของคุณยังปลอดภัยดีอยู่หรือไม่ ? การปลอมแปลงชื่อระบบโดเมน หรือที่เรียกกันว่า DNS spoofing เป็นการโจมตีทางอินเทอร์เน็ตที่ปรับเปลี่ยนข้อมูลบนเซิร์ฟเวอร์ DNS เพื่อเปลี่ยนเส้นทางผู้ใช้ไปยังเว็บไซต์ปลอมที่ทำให้เหมือนเว็บไซต์จริงได้อย่างแนบเนียน

โดยฝังมัลแวร์อันตราไว้คือเพื่อติดตั้งบนอุปกรณ์ของผู้ใช้งาน ขโมยข้อมูลละเอียดอ่อน หรือเปลี่ยนเส้นทางรับส่งข้อมูล

ก่อนที่จะเจาะลึกว่าการโจมตีด้วยการปลอมแปลง DNS ทำงานอย่างไร สิ่งสำคัญคือต้องทำความเข้าใจว่าระบบ DNS ทำงานอย่างไร

DNS คืออะไร ?

DNS หรือ Domain Name Server เป็นส่วนหนึ่งที่ทำงานบน Application Layer เมื่อผู้ใช้ค้นหาเว็บไซต์โดยใช้ URL ตัวอย่างเช่น skysoft.com อุปกรณ์จะส่งคำขอไปยังเซิร์ฟเวอร์ DNS ที่ตรงกับ URL ไปยังที่อยู่ IP ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งเป็นตัวเลขและจุดที่ไม่ซ้ำกันเช่น (192.0.1.168) ซึ่งกำหนดให้กับทุกอุปกรณ์ เซิร์ฟเวอร์ และเว็บไซต์

เมื่อเซิร์ฟเวอร์จับคู่คำขอกับที่อยู่ IP ระบบจะนำผู้ใช้ไปยังเว็บไซต์ที่ต้องการ ผู้โจมตีสามารถใช้ประโยชน์จากช่องโหว่เพื่อทำการโจมตีด้วยการปลอมแปลง DNS

ในบทความนี้เราจะอธิบายวิธีการทำงานของการปลอมแปลง DNS และวิธีเตรียมความพร้อมในการะป้องกันตัวเอง

การปลอมแปลง DNS ทำงานอย่างไร ?

เป้าหมายของการโจมตีคือเพื่อหลอกผู้ใช้ และเซิร์ฟเวอร์ให้คิดว่าเว็บไซต์ปลอมนั้นคือ เว็บไซต์ของจริง ในการทำเช่นนี้ ผู้โจมตีมักจะปฏิบัติตามสี่ขั้นตอนนี้

ขั้นตอนที่ 1: เชื่อมต่อเข้ากับเซิร์ฟเวอร์ DNS

ก่อนที่แฮกเกอร์โจมตี ต้องสามารถเชื่อมต่อเข้าถึงเซิร์ฟเวอร์ DNS ให้ได้โดยการสแกนหาช่องโหว่ที่เกี่ยวข้องกับเวอร์ชันซอฟต์แวร์ของเซิร์ฟเวอร์ DNS และที่อยู่ MAC แน่นอนว่า DNS ส่วนใหญ่ไม่มีการป้องกัน ทำให้ผู้โจมตีสามารถเชื่อมต่อ และเปลี่ยนเส้นทางการรับส่งข้อมูลไปที่อื่นได้

ขั้นตอนที่ 2: เปลี่ยนเส้นทางการรับข้อมูล

เมื่อผู้โจมตีเข้าถึงเซิร์ฟเวอร์ DNS แฮกเกอร์สามารถเปลี่ยน IP ที่ใช้อยู่ให้เป็นของปลอมได้ เนื่องจากระบบเหล่าไม่สามารถแยกความแตกต่างระหว่าง IP ที่ถูกต้องกับ IP ที่เป็นอันตราย ทำให้ทุกคนที่เชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ไปยังเว็บไซต์ปลอมที่เป็นอันตราย แทนที่จะเป็นเว็บไซต์ที่ถูกต้อง

ขั้นตอนที่ 3: เข้าถึงข้อมูลสำคัญ

เมื่อผู้ใช้มาถึงเว็บไซต์ที่เป็นอันตราย ผู้ใช้ต้องป้อนข้อมูลการเข้าสู่ระบบตามปกติ เนื่องจากไซต์ปลอมมีการปลอมแปลงให้เหมือนกับเว็บไซต์จริง เหยื่อไม่รู้เลยว่ากำลังส่งข้อมูลสำคัญให้กับแฮกเกอร์ ซึ่งตัวแฮกเกอร์ยังสามารถติดตั้งมัลแวร์บนอุปกรณ์ของเหยื่อ หรือเปลี่ยนเส้นทางการรับส่งข้อมูลไปยังเว็บไซต์ฟิชชิ่ง ส่วนใหญ่จะเป็นเว็บไซต์ช้อปปิ้งออนไลน์และธนาคาร

รูปแบบการปลอมแปลงชื่อโดเมน

  • เปลี่ยนข้อมูลเซิร์ฟเวอร์ DNS
    วิธีการปกติสำหรับการปลอมแปลง DNS แฮกเกอร์สามารถเข้าถึงเซิร์ฟเวอร์ DNS และแทรก DNS ปลอม IP ปลอมในระบบเปลี่ยนจากเข้าเว็บไซต์ที่ต้องการเป็นเว็บไซต์ปลอมที่แฮกเกอร์ต้องการ
  • การแอบดักขโมยข้อมูลระหว่างการรับส่ง
    การโจมตีทางไซเบอร์ที่แฮกเกอร์ใช้เพื่อดักจับทราฟฟิก หรือการถ่ายโอนข้อมูล และขโมยข้อมูลสำคัญ แฮกเกอร์สกัดกั้นคำขอ DNS ของเหยื่อก่อนที่จะถึงเซิร์ฟเวอร์ และเปลี่ยนเส้นทางไปยังที่อยู่ IP ปลอม พร้อมยังทำให้อุปกรณ์ของเหยื่อติดไวรัส แต่ยังสามารถทำให้เซิร์ฟเวอร์ DNS ที่ได้รับคำขอเริ่มต้นเสียหายได้

  • หาช่องโหว่ในระบบชื่อโดเมน (DNS)
    เปลี่ยนข้อมูลของ DNS ให้วิ่งไปที่ IP Address ปลายทางที่อื่นที่ไม่ใช่ของจริง สังเกตเห็นความผิดปกติได้ยากเนื่องจากใน Address Bar ของเบราว์เซอร์จะแสดง URL ถูกต้อง แต่เว็บไซต์ปลายทางนั้นไม่ใช่เว็บไซต์จริง เพื่อทำการขโมยข้อมูลสำคัญ หรือเผยแพร่มัลแวร์เข้าเครื่อง

ความเสี่ยงและผลกระทบด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์

  1. ถูกขโมยข้อมูล
    แฮกเกอร์มักปลอม DNS เพื่อเข้าถึงข้อมูลผู้ใช้ที่มีความละเอียดอ่อน เช่น การธนาคาร บัตรเครดิต และข้อมูลการเข้าสู่ระบบส่วนบุคคล
  2. การเซ็นเซอร์
    แฮกเกอร์สามารถปลอม DNS เพื่อเซ็นเซอร์เว็บไซต์ที่ต้องการ รัฐบาลบางประเทศมีการทำในส่วนนี้เพื่อป้องกันไม่ให้ประชาชนเข้าถึงบางเว็บไซต์ หรือแหล่งข้อมูลออนไลน์ตัวอย่างเช่น จีนขึ้นชื่อในแฮก DNS ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ Great Firewall ซึ่งเป็นระบบกรอง DNS ที่ออกแบบมาเพื่อเปลี่ยนเส้นทางผู้ใช้ออกจากเว็บไซต์ที่ไม่ได้รับอนุมัติ
  3. ติดไวรัสมัลแวร์
    เว็บไซต์ปลอมมักเต็มไปด้วยลิงก์ และการดาวน์โหลดที่เป็นอันตรายซึ่งทำให้อุปกรณ์ของเหยื่อติดมัลแวร์ในได้ ในส่วนนี้สามารถป้องกันทางอ้อมด้วยการป้องกันการอัปเดตความปลอดภัยที่ถูกต้องเช่น Patch & Asset Management โดย Heimdal Security ระบบที่ปรับใช้การอัปเดตและแพตช์โดยอัตโนมัติ ซึ่งจะเป็นการปิดช่องว่างด้านความปลอดภัยในเครือข่ายขององค์กรของคุณ

    ความเสี่ยงนี้จะเพิ่มขึ้นไปอีก ถ้าคุณไม่ได้ใช้ซอฟต์แวร์ป้องกันไวรัส หรือวิธีการรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์

ข้อมูลส่วนตัวของคุณยังปลอดภัยดีอยู่หรือไม่ ? วิธีป้องกันตัวเองจากภัยที่มองไม่เห็น

  • อย่าคลิกลิงก์ที่ไม่รู้จัก
    เว็บไซต์ที่เป็นอันตรายมักแสดงโฆษณาปลอม หรือการแจ้งเตือนให้คุณคลิกลิงก์ ทำให้อุปกรณ์ของคุณติดไวรัสและมัลแวร์อื่นๆ หากคุณสังเกตเห็นลิงก์หรือโฆษณาที่ไม่คุ้นเคยบนเว็บไซต์ที่คุณใช้ตามปกติ ควรหลีกเลี่ยงการกดลิงก์เหล่านั้น
  • ตั้งค่า DNSSEC
    เจ้าของโดเมนและผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตสามารถตั้งค่าส่วนขยายความปลอดภัย DNS (DNSSEC) เพื่อตรวจสอบสิทธิ์ให้ข้อมูล DNS วิเคราะห์ตรวจสอบว่าในการเข้าถึงแต่ละครั้งนั้นถูกต้อง แต่ส่วนมากแล้วไม่ได้ใช้ DNSSE กันมากนัก ดังนั้นข้อมูล DNS สำหรับโดเมนส่วนใหญ่จึงยังไม่ได้รับการเข้ารหัส
  • สแกนตรวจสอบไวรัสในเครื่องของคุณ
    เนื่องจากแฮกเกอร์มักใช้การปลอมแปลง DNS เพื่อติดตั้งไวรัส และมัลแวร์ประเภทอื่นๆ การสแกนอุปกรณ์ของคุณเพื่อหาภัยคุกคามเหล่านี้เป็นประจำจึงเป็นสิ่งสำคัญ คุณสามารถทำได้โดยติดตั้งซอฟต์แวร์ป้องกันไวรัสที่ระบุและช่วยขจัดภัยคุกคามเช่น หรือเลือกใช้ Antivirus ที่มีประสิทธิภาพ Adaptive Defense 360 ที่นำมาโดยระบบ EDR สำหรับป้องกัน ransomware และภัยคุกคามทางไซเบอร์ทุกชนิด ไม่หน่วงเครื่อง ใช้ทรัพยากรเครื่องน้อยที่สุด พร้อมตัว Web Access Control ตั้งค่าการเข้าถึงเว็บไซต์ของเครื่องได้ตามช่วงเวลา หรือตั้งค่า blacklist , whitelist เป็นต้น หากท่านสนใจสามารถขอทดลองใช้ได้ฟรี 30 วัน
  • ใช้ VPN
    VPN เป็นมาตรการรักษาความปลอดภัยเพิ่มเติมที่ป้องกันไม่ให้บุคคลอื่นสามารถติดตามกิจกรรมออนไลน์ของคุณ โดยปกติแล้วการเชื่อมต่ออุปกรณ์ของคุณกับเซิร์ฟเวอร์ในพื้นที่ของผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต แต่ตัว VPN จะเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ DNS ส่วนตัวทั่วโลกที่ใช้คำขอเข้ารหัสแบบ end-to-end ซึ่งจะช่วยป้องกันผู้โจมตีได้ดียิ่งขึ้น
  • ตรวจสอบว่าการเชื่อมต่อของคุณปลอดภัย
    เว็บไซต์ที่เป็นอันตรายมักจะปลอมมาได้อย่างแนบเนียนเหมือนกับเว็บไซต์จริง แต่มีสองสามวิธีในการตรวจสอบว่าคุณเชื่อมต่อกับเว็บไซต์ที่ปลอดภัย หากคุณกำลังใช้ Google Chrome ให้มองหาสัญลักษณ์แม่กุญแจสีเทาขนาดเล็กในแถบที่อยู่ทางด้านซ้ายของ URL สัญลักษณ์นี้แสดงว่า Google เชื่อถือใบรับรองความปลอดภัยของโฮสต์โดเมน

Credit https://www.pandasecurity.com/

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *