ลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์คืออะไร? การละเมิดลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์กลายเป็นปัญหาทั่วโลก โดยจีน สหรัฐอเมริกา และอินเดีย อยู่ในสามอันดับแรก
ในปี 2022 ผู้คน 6.2% ทั่วโลกเข้าเว็บไซต์ที่ละเมิดลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์
การละเมิดลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์ไม่จำเป็นต้องใช้แฮกเกอร์หรือผู้เขียนโค้ดที่เชี่ยวชาญ ผู้ใช้งานที่มีคอมพิวเตอร์สามารถละเมิดลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์ได้หากพวกเขาไม่ทราบเกี่ยวกับกฎหมายซอฟต์แวร์ เนื่องจากผลกระทบในวงกว้างดังกล่าว จึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะต้องเข้าใจว่าการละเมิดลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์คืออะไร และอันตรายที่อาจเกิดขึ้นได้
การละเมิดลิขสิทธิ์ซอฟท์แวร์คืออะไร ?
การละเมิดลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์คือ การใช้ซอฟต์แวร์ที่ได้รับการคุ้มครองตามกฎหมายโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งรวมถึงการขโมย คัดลอก แจกจ่าย ดัดแปลง หรือจำหน่ายซอฟต์แวร์ เดิมทีกฎหมายลิขสิทธิ์ถูกนำมาใช้เพื่อให้ผู้ที่พัฒนาซอฟต์แวร์ (โปรแกรมเมอร์ นักเขียน ศิลปินกราฟิก ฯลฯ) จะได้รับเครดิต และค่าตอบแทนที่เหมาะสมสำหรับงาน
เมื่อการละเมิดลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์เกิดขึ้น ผู้พัฒนาจะไม่ได้รับเงินจากลิขสิทธิ์เหล่านี้
กฏหมายด้านการละเมิดลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์
การละเมิดลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์เป็นสิ่งผิดกฎหมายและถือเป็นอาชญากรรม บทลงโทษเป็นเงินสำหรับผู้ที่ฝ่าฝืนกฎหมายนี้อาจสูงถึง 5 ล้านบาทต่อการละเมิดลิขสิทธิ์ ข้อตกลงใบอนุญาตผู้ใช้ปลายทาง (EULA) เป็นใบอนุญาตที่ใช้สำหรับซอฟต์แวร์ส่วนใหญ่ เป็นสัญญาระหว่างผู้ผลิต และผู้ใช้ปลายทาง ข้อตกลงนี้กำหนดกฎเกณฑ์สำหรับการใช้งานซอฟต์แวร์ และข้อตกลงแต่ละฉบับก็ไม่เหมือนกัน กฎทั่วไปข้อหนึ่งใน EULA ห้ามไม่ให้ผู้ใช้แชร์ ซอฟต์แวร์กับผู้อื่น
อันตรายจากการละเมิดลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์
การละเมิดลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์อาจมีราคาถูกกว่าการซื้อซอฟต์แวร์ที่ถูกกฎหมาย แต่มีอันตรายมากมายที่ผู้ละเมิดลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์ควรระวังรมีความเสี่ยงที่จะปล่อยให้ไวรัสแพร่ระบาดในคอมพิวเตอร์ของเหยื่อ
โดยผลกระทบจากการละเมิดลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์
- ซอฟต์แวร์ทำงานผิดปกติ หรือล้มเหลว: มีโอกาสมากขึ้นที่จะพบกับข้อผิดพลาด หรือระบบล้มเหลว ซอฟต์แวร์ละเมิดลิขสิทธิ์ไม่มีการควบคุมคุณภาพซอฟต์แวร์ที่ใช้ในการทดสอบหรือปรับปรุงซอฟต์แวร์ ส่งผลให้ประสิทธิภาพลดลงและระบบที่อาจไม่เสถียร
- ไม่ได้รับการบริการหลังการขาย: การฝึกอบรม การอัปเกรด การสนับสนุนลูกค้า และการแก้ไขข้อบกพร่อง ทั้งหมดนี้รวมอยู่ในการซื้อซอฟต์แวร์ที่ถูกกฎหมาย ผู้ใช้จะสูญเสียสิทธิ์การเข้าถึงบริการเหล่านี้เมื่อใช้ซอฟต์แวร์ละเมิดลิขสิทธิ์
- ไม่มีการรับประกัน และไม่มีการอัปเดต: ซอฟต์แวร์ละเมิดลิขสิทธิ์ไม่มีการรับประกัน ผู้ใช้ที่ไม่สามารถอัปเดตเองจะไม่ได้มีการติดตั้งแพตช์ความปลอดภัย และการปรับปรุงที่สำคัญ ส่งผลให้ระบบของพวกเขาเสี่ยงต่อภัยคุกคามความปลอดภัยทางไซเบอร์
- ความเสี่ยงมัลแวร์ ไวรัส เพิ่มขึ้น: ผู้ใช้มีความเสี่ยงมากขึ้นสำหรับมัลแวร์ ไวรัส เมื่อดาวน์โหลดซอฟต์แวร์ที่ละเมิดลิขสิทธิ์ ผู้จำหน่ายสามารถแก้ไขแพ็คเกจซอฟต์แวร์เพื่อใส่โค้ดที่เป็นอันตราย ทำให้ซอฟต์แวร์และระบบคอมพิวเตอร์ของผู้ใช้มีความเสี่ยงที่จะถูกโจมตี
เพื่อลดความเสี่ยงเหล่านี้ การนำมาตรการรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ที่แข็งแกร่งมาใช้ถือเป็นสิ่งสำคัญ ซอฟต์แวร์ป้องกันไวรัส ระบบป้องกันภัยคุกคามทางไซเบอร์ขั้นสูง พร้อมเทคโนโลยี EDR อาทิ Zero-Trust Application Service, Threat Hunting Service, AI Deep Learning Algorithm อย่าง WatchGuard EPDR (Panda Adaptive Defense 360)
สามารถปกป้องอุปกรณ์ของคุณจากมัลแวร์และการละเมิดที่อาจเกิดขึ้น ปกป้องการท่องเว็บออนไลน์ของคุณประกอบด้วยการตรวจจับพฤติกรรมเพื่อป้องกัน และบล็อกการโจมตีแบบไม่มีไฟล์ตามสคริปต์ที่ฝังอยู่ในไฟล์ Office ตัวแอปพลิเคชันสามารถตรวจจับการทำงานที่ผิดปกติที่ เพื่อป้องกันการโจมตีได้ หรือใช้ช่องโหว่จากเว็บเบราว์เซอร์ ของแอปอื่นๆ เช่น Java Adobe Reader, Adobe Flash, Office ฯลฯ หากท่านสนใจทดลองใช้สามารถ ลงทะเบียนเพื่อขอทดลองได้ฟรี 30 วัน - เครื่องทำงานได้ช้าลง: ซอฟต์แวร์ที่ผิดกฎหมายอาจมีโปรแกรม คุณสมบัติ หรือโค้ดที่ถูกเปลี่ยนแปลงเพิ่มเติม ซึ่งอาจทำให้ประสิทธิภาพของคอมพิวเตอร์ช้าลง ทำให้ระบบทั้งหมดตกอยู่ในความเสี่ยง
- ผลกระทบด้านกฎหมายจากการละเมิดลิขสิทธิ์: บุคคลที่ใช้ซอฟต์แวร์ละเมิดลิขสิทธิ์เสี่ยงต่อผลทางกฎหมายที่ร้ายแรง การละเมิดลิขสิทธิ์เป็นความผิดที่มีโทษและอาจทำให้บริษัทซอฟต์แวร์ดำเนินการทางกฎหมายกับคุณอย่างจริงจัง การใช้ซอฟต์แวร์ละเมิดลิขสิทธิ์อาจส่งผลให้มีโทษปรับ โทษและอาจถึงขั้นจำคุกได้
- ปัญหาความเข้ากันภายในระบบ: ซอฟต์แวร์ละเมิดลิขสิทธิ์อาจไม่ทำงานร่วมกับโปรแกรมหรือระบบปฏิบัติการอื่น ส่งผลให้ข้อมูลสูญหาย ปัญหาการจัดรูปแบบ
ประเภทของการละเมิดลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์
- Softlifting คือเมื่อมีคนซื้อซอฟต์แวร์เวอร์ 1 ชุดและติดตั้งลงในคอมพิวเตอร์หลายเครื่อง แม้ว่าใบอนุญาตซอฟต์แวร์จะระบุว่าใช้ได้เพียง 1 เครื่อง สิ่งนี้มักเกิดขึ้นในวงการธุรกิจหรือโรงเรียน มักทำเพื่อประหยัดเงิน เป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์ที่พบบ่อยที่สุด
- Client-Server มีผู้ใช้งานมากเกินไป เมื่อมีผู้คนจำนวนมากเกินไปบนเครือข่ายใช้ซอฟท์แวร์พร้อมกัน บนระบบเครือข่าย สิ่งนี้มักเกิดขึ้นเมื่อบริษัทดาวน์โหลดซอฟต์แวร์บนเซิฟเวอร์ เพื่อให้พนักงานทุกคนใช้ผ่านระบบเครือข่าย นี่จะกลายเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์ประเภทหนึ่ง
- Harddisk Loading เป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์เชิงพาณิชย์ประเภทหนึ่งโดยมีคนซื้อซอฟต์แวร์ที่ถูกต้องตามกฎหมาย จากนั้นจึงทำซ้ำ คัดลอก หรือติดตั้งลงในฮาร์ดดิสก์ของคอมพิวเตอร์แล้วนำมาขาย สิ่งนี้มักเกิดขึ้นที่ร้านขายคอมพิวเตอร์ และผู้ซื้อมักไม่ทราบว่าซอฟต์แวร์ที่พวกเขาซื้อนั้นผิดกฎหมาย
- การปลอมแปลง โปรแกรมซอฟต์แวร์ถูกทำซ้ำอย่างผิดกฎหมาย และจำหน่ายโดยบอกว่าเป็นของแท้ ซอฟต์แวร์ลอกเลียนแบบมักจะจำหน่ายในราคาที่มีส่วนลดพิเศษ เมื่อเปรียบเทียบกับซอฟต์แวร์ที่ถูกกฎหมาย
- การละเมิดลิขสิทธิ์ออนไลน์ หรือที่เรียกว่าการละเมิดลิขสิทธิ์อินเทอร์เน็ต คือเมื่อมีการขาย แชร์ หรือได้มาซึ่งซอฟต์แวร์ผิดกฎหมายผ่านทางอินเทอร์เน็ต โดยปกติจะทำผ่านระบบแชร์ไฟล์แบบ peer-to-peer (P2P) ซึ่งมักพบในรูปแบบของเว็บไซต์ และการประมูลออนไลน์
- การเช่า เมื่อมีการเช่าซอฟต์แวร์ ตัวซอฟท์แวร์เวอร์ชั่นสำเนาสามารถใช้ได้ในระยะเวลาจำกัดโดยไม่ได้รับความยินยอมจากเจ้าของลิขสิทธิ์ แม้ว่าสถาบันบางแห่ง เช่น ห้องสมุดและมหาวิทยาลัย จะมีใบอนุญาตพิเศษในการเช่าซอฟต์แวร์อย่างถูกกฎหมาย
ตัวอย่างการละเมิดลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์ การละเมิดลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์อาจพบได้บ่อยกว่าที่คุณคิด เพื่อช่วยให้คุณเข้าใจวิธีการทำงานของการละเมิดลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์ ต่อไปนี้เป็นตัวอย่างทั่วไปบางส่วน
- การใช้แคร็ก หรือละเมิดลิขสิทธิ์ที่ดาวน์โหลดจากเว็บไซต์ที่ไม่ได้รับอนุญาต:
สิ่งนี้จัดอยู่ในประเภท Softlifting เนื่องจากเกี่ยวข้องกับการได้รับสำเนาซอฟต์แวร์ที่ไม่ได้รับอนุญาต หลีกเลี่ยงการละเมิดลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์ประเภทนี้โดยใช้ซอฟต์แวร์ลิขสิทธิ์จากแหล่งที่ได้รับอนุญาตใช้ App Store ที่เชื่อถือได้ เช่น Google Play หรือ Apple App Store เพื่อดาวน์โหลด ลองติดตั้งซอฟต์แวร์ป้องกันไวรัสเพื่อเพิ่มความปลอดภัย - ใช้ตัวสร้างคีย์ หรือเครื่องมือถอดรหัสใบอนุญาตเพื่อใช้งานอย่างผิดกฎหมาย:
ตัวสร้างคีย์คือโปรแกรมที่สร้างคีย์ลิขสิทธิ์โดยการสุ่มโดยใช้อัลกอริทึม เครื่องมือถอดรหัสคีย์จะลบหรือแก้ไขกลไกการป้องกันการคัดลอกของซอฟต์แวร์เพื่อหลีกเลี่ยงกระบวนการเปิดใช้งานที่เหมาะสม นี่เป็นอีกตัวอย่างหนึ่งของ softlifting - การแชร์ลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์:
ลองนึกภาพบริษัทขนาดเล็กซื้อลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์สำหรับเครื่องมือการจัดการโครงการ โดยอนุญาตให้ผู้ใช้เข้าถึงได้มากถึง 10 คน อย่างไรก็ตาม เมื่อภาระงานเพิ่มขึ้น พนักงานก็เริ่มแชร์ข้อมูลรับรองการเข้าสู่ระบบกับเพื่อนร่วมงานเกินจำนวนผู้ใช้ที่ได้รับอนุญาตนี่เป็นรูปแบบหนึ่งของการใช้งาน Client-Server มากเกินจำนวนเนื่องจากมีผู้คนเข้าถึงซอฟต์แวร์มากกว่าที่ใบอนุญาตอนุญาต - การแก้ซอฟต์แวร์เพื่อเลี่ยงการป้องกันการคัดลอก:
นี่เป็นตัวอย่างหนึ่งของ Harddisk Loading เมื่อบุคคลเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับซอฟต์แวร์เพื่อลบกลไกป้องกันการคัดลอก และแจกจ่ายอย่างผิดกฎหมาย - Copy ซอฟต์แวร์ละเมิดลิขสิทธิ์ขาย:
บุคคลที่คัดลอกซอฟต์แวร์ละเมิดลิขสิทธิ์ขาย โดยไม่ได้รับอนุญาตซึ่งเป็นการคัดลอกผลิตภัณฑ์ของแท้มาเป็นต้นฉบับที่ใช้ในการคัดลองซอฟท์แวร์ขาย - การแจกจ่ายตัวซอฟต์แวร์โดยไม่ได้รับอนุญาต:
บุคคลที่ได้ซื้อซอฟต์แวร์การออกแบบกราฟิกยอดนิยมอย่างถูกต้อง ได้ตัดสินใจที่จะแบ่งปันซอฟต์แวร์ดังกล่าวบนเว็บไซต์ที่มีการแชร์ไฟล์อย่างอิสระ ผู้อื่นดาวน์โหลด และใช้สำเนาที่ไม่ได้รับอนุญาตนี้ ซึ่งเป็นการทำให้บริษัทผู้จัดจำหน่ายสูญเสียรายได้
การป้องกันการละเมิดลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์การป้องกันการละเมิดลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์
- การให้ความรู้แก่ตนเอง: ให้ความรู้แก่ตนเอง และผู้อื่นเกี่ยวกับความสำคัญของซอฟต์แวร์ที่ถูกกฎหมาย ทำความเข้าใจข้อกำหนดเงื่อนไขข้อตกลงสิทธิ์การใช้งานของซอฟต์แวร์ที่คุณซื้อ
- การตรวจสอบรหัสลิขสิทธิ์: ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณมีรหัสลิขสิทธิ์ที่ถูกต้องและปฏิบัติตามข้อกำหนดที่เหมาะสมเมื่อเปิดใช้งานซอฟต์แวร์ช
- ซื้อซอฟต์แวร์จากผู้จำหน่ายที่ได้รับอนุญาต: ซื้อซอฟต์แวร์จากผู้ขาย และร้านค้าที่น่าเชื่อถือเท่านั้น หลีกเลี่ยงแหล่งที่ไม่น่าเชื่อถือเพื่อให้แน่ใจว่าคุณได้รับผลิตภัณฑ์ที่ถูกต้องตามกฎหมาย
- การใช้ระบบความปลอดภัย Wi-Fi ล่าสุด: ตรวจสอบให้แน่ใจว่าเราเตอร์ของคุณใช้ซอฟต์แวร์ล่าสุดเพื่อป้องกันอาชญากรไซเบอร์ไม่ให้ละเมิดข้อมูล หรือทำให้คอมพิวเตอร์ของคุณติดไวรัส
Credit https://www.pandasecurity.com/