5 ข้อควรระวังความปลอดภัยเวลาเดินทาง

5 ข้อควรระวังความปลอดภัยเวลาเดินทาง

ในช่วงปี 2022 จะเป็นครั้งแรกที่ผู้คนจะได้พักผ่อนอย่างเหมาะสมตั้งแต่เกิดโรคระบาดครั้งใหญ่ในปี 2019 ราคาน้ำมันที่แพงจนน่าตกใจ อัตราเงินเฟ้อสูง สงครามในยุโรป การยกเลิกเที่ยวบินและข้อจำกัดต่างๆ

ผู้คนจากการวางแผนการเดินทางออกจากบ้านเพื่อไปพักผ่อน และทุกอย่างดูน่าตื่นเต้น แต่ก็มาพร้อมกับอันตรายบางอย่างที่นักเดินทางจำเป็นต้องจำไว้ขณะเดินทาง โดยมี 5 ข้อต่อไปนี้

5 ข้อควรระวังความปลอดภัยเวลาเดินทาง

1.ไม่เชื่อมต่อกับ WiFi สาธารณะ

การเชื่อมต่อเครือข่าย WiFi สาธารณะที่เปิดทั่วไปอาจเป็นอันตรายได้ แฮกเกอร์ และผู้ดูแลระบบไอทีของเครือข่ายเหล่านั้นมีวิธีตรวจสอบการรับส่งข้อมูลที่เข้าออกจากเครือข่ายเหล่านั้น ตัวอย่างการรับส่งข้อมูลเช่น รหัสผ่าน หมายเลขประกันสังคม เป็นต้น ดังนั้นหากคุณวางแผนที่จะใช้ WiFi สาธารณะ ให้คุณรู้เอาไว้เลยว่าสิ่งที่คุณทำอยู่อาจเป็นการให้ข้อมูลไปยังบุคคลอื่นโดยไม่ได้ตั้งใจ

2.ใช้เครื่องคอมพิวเตอร์สาธารณะ

คุณอาจกำลังเดินผ่านห้องสมุด หรือรอเที่ยวบินในระหว่างต่อเครื่องที่สนามบิน และรู้สึกอยากใช้คอมพิวเตอร์สาธารณะที่อยู่บริเวณนั้น การเปิดหาข่าวอ่านช่วยฆ่าเวลา และประหยัดแบตเตอรี่ของโทรศัพท์ของคุณได้ อย่างไรก็ตามหากคุณต้องการทำสิ่งที่สำคัญที่คุณต้องพิมพ์ข้อมูลละเอียดอ่อน ต้องคิดให้รอบคอบก่อนพิมพ์หรือเชื่อมต่ออุปกรณ์ USB กับคอมพิวเตอร์สาธารณะ แฮกเกอร์อาจบันทึกข้อมูลทั้งหมดที่คุณป้อน และอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อของคุณอาจติดไวรัสได้

3.โซเชียลมีเดียและการแชร์ตำแหน่งโดยทั่วไป

การรักษาความปลอดภัย และความเป็นส่วนตัวทางไซเบอร์เป็นสิ่งจำเป็น แต่ไม่ใช่สิ่งเดียวที่คุณควรทำในขณะเดินทาง การแชร์ตำแหน่งของคุณบนโซเชียลมีเดียอาจชี้ให้ผู้ไม่หวังดีทราบว่าคุณไม่อยู่บ้าน คนที่อาจบุกรุกที่รู้ว่าคุณไม่อยู่บ้านอาจเข้าไปตัดไฟเพื่อปิดการทำงานของกล้องแล้วปล้นบ้านของคุณ พร้อมกับดูคุณสตรีมสดจากสถานที่ท่องเที่ยว เราจึงไม่แนะนำให้แชร์ตำแหน่งของคุณ

4.ติดต่อหาธนาคารของคุณ

ติดต่อธนาคารของคุณเพื่อแจ้งว่าคุณกำลังจะเดินทาง นี่คือวิธีที่การันตีได้ว่าคุณจะไม่มีปัญหาบัตรเครดิตในต่างประเทศ หากคุณไม่ได้แจ้งธนาคารว่าคุณจะไปเยือนประเทศใดประเทศหนึ่ง ธนาคารอาจจำกัดบัญชีของคุณ วิธีเดียวที่จะปลดบล็อกได้คือต้องไปที่สาขา และอาจไม่ง่ายอย่างที่คิดหากคุณกำลังอยู่ในระหว่างการเดินทางไปท่องเที่ยว

5.เปิด ‘ฟีเจอร์ find my device’

น่าเศร้าที่โอกาสอุปกรณ์ของคุณหายเพิ่มขึ้นเมื่อคุณไม่อยู่บ้าน ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณสามารถหาอุปกรณ์ของคุณเจอด้วยการเปิดฟีเจอร์ต่างๆ เช่นของ iOS ‘Find My’ หากคุณต้องการติดตามอุปกรณ์ของคุณในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุ หรือหากคุณต้องการให้คนที่อยู่ใกล้คุณรู้ว่าคุณอยู่ที่ไหน การแบ่งปันตำแหน่งของคุณกับลูกๆ หรือเพื่อนของคุณอาจเป็นความคิดที่ดี โอกาสในการสูญเสียจะลดลงอย่างมากหากคุณสามารถใช้เทคโนโลยีดังกล่าวได้

การท่องเที่ยวเป็นเรื่องสนุก แต่ก็อาจกลายเป็นฝันร้ายได้หากคุณไม่ได้เตรียมตัว อย่าลืมตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณได้ติดตั้งซอฟท์แวร์ Antivirus ที่มีประสิทธิภาพบนอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อของคุณเช่น Adaptive Defense 360 ที่นำมาโดยระบบ EDR สำหรับป้องกัน ransomware และภัยคุกคามทางไซเบอร์ทุกชนิด ไม่หน่วงเครื่อง ใช้ทรัพยากรเครื่องน้อยที่สุด พร้อมตัว Web Access Control ตั้งค่าการเข้าถึงเว็บไซต์ของเครื่องได้ตามช่วงเวลา หรือตั้งค่า blacklist , whitelist เป็นต้น หากท่านสนใจสามารถขอทดลองใช้ได้ฟรี 30 วัน

ระบบปฏิบัติการ และแอปต้องได้รับการอัปเดตสำรองข้อมูลอย่างปลอดภัยเช่น Patch & Asset Management โดย Heimdal Security ระบบที่ปรับใช้การอัปเดตและแพตช์โดยอัตโนมัติ ซึ่งจะเป็นการปิดช่องว่างด้านความปลอดภัยของคุณ หากคุณไม่มีการอัปโหลดเนื้อหาของคุณไปยังระบบคลาวด์ คุณอยู่ในจุดเสี่ยงที่จะสูญเสียภาพอันมีค่าเหล่านี้หากเกิดอุบัติเหตุที่ไม่คาดฝัน การเตรียมพร้อมสำหรับทุกสถานการณ์ไม่ใช่สิ่งที่จำเป็น แต่ขอแนะนำว่าคุณควรเตรียมพร้อมเอาไว้เพราะมันจะช่วยคุณประหยัดเวลา และเงินได้ในระยะยาว

Credit https://www.pandasecurity.com/