12 เคล็ดลับวิธีป้องกันถูกแฮกข้อมูลบัตรเครดิต

12 เคล็ดลับวิธีป้องกันถูกแฮกข้อมูลบัตรเครดิต

12 เคล็ดลับวิธีป้องกันถูกแฮกข้อมูลบัตรเครดิต ในยุคปัจจุบันการเก็บข้อมูลทางการเงินไว้ให้ใกล้ตัวมีความสำคัญมากกว่าที่เคย

ทุกคนสามารถตกเป็นเหยื่อของการแฮกบัตรเครดิตได้ ซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไมการทำความคุ้นเคยกับการป้องกันจึงเป็นเรื่องสำคัญ

การแฮกบัตรเครดิตเป็นรูปแบบหนึ่งของการโจรกรรมที่มีคนใช้บัตรเครดิต หรือข้อมูลธนาคารของคุณเพื่อซื้อบางอย่างโดยที่คุณไม่รู้ตัว สัญญาณเตือนว่าคุณอยู่ในกลุ่มเสี่ยงเช่น

  • การเรียกเก็บเงินที่เป็นธุรกรรมที่คุณไม่ได้เป็นคนอนุมัติ
  • การเปลี่ยนแปลงรายงานบัตรเครดิต เช่น การค้นหาเครดิตใหม่ การลงทะเบียนบัญชีหรือที่อยู่
  • ได้รับการแจ้งเตือนการเรียกเก็บเงินหรือใบแจ้งหนี้ที่คุณไม่เคยมี

ปกป้องตัวคุณด้วยเคล็ดลับ 12 ข้อที่มีประสิทธิภาพในการป้องกันการฉ้อโกงบัตรเครดิต

1.ตรวจสอบใบแจ้งหนี้ของคุณอย่างสม่ำเสมอ
ตรวจสอบใบแจ้งยอดธนาคารของคุณเพื่อหาสิ่งที่ผิดปกติเช่น มีการซื้อที่คุณไม่ทราบทุกเดือนเพิ่มเติมด้วยการ ขอให้ธนาคารแจ้งคุณเกี่ยวกับกิจกรรมที่ผิดปกติ วิธีนี้จะช่วยให้คุณสามารถหยุดการฉ้อโกงที่อาจเกิดขึ้นได้

2.ตรวจสอบรายงานบัตรเครดิตของคุณ
คะแนนเครดิตของคุณที่ลดลงอย่างรวดเร็วสามารถบ่งบอกถึงกิจกรรมจากบุคคลอื่น ตั้งค่าการอัพเดทคะแนนอัตโนมัติกับธนาคาร หรือตั้งค่าการเตือนรายสัปดาห์ หากคุณสังเกตเห็นความผิดปกติใดๆ ให้ติดต่อธนาคาร

3.แจ้งอายัตบัตรหายหรือบัตรถูกขโมย
หากคุณสังเกตเห็นว่าบัตรใบใดใบหนึ่งหายไป คุณควรดำเนินการทันที โทรติดต่อบริษัทผู้ออกบัตรเครดิตของคุณและอายัตบัตรที่หายของคุณให้เร็วที่สุด ธนาคารจะปิดการใช้งานบัตรและส่งบัตรใหม่ให้คุณ เมื่อคุณได้รับบัตรใหม่แล้ว ให้ตรวจสอบบัญชีเพิ่มเติมเพื่อตรวจสอบว่ามีการใช้จ่ายที่น่าสงสัยหรือไม่

4.ปกป้องข้อมูลบัญชีของคุณ
บัญชีของคุณมีข้อมูลที่ละเอียดอ่อนเช่น ชื่อ ที่อยู่ PIN ข้อมูลลายนิ้วมือที่บันทึกไว้ และรหัสผ่าน หลีกเลี่ยงการแบ่งปันข้อมูลนี้กับบุคคลอื่น คุณควรหลีกเลี่ยงรหัสผ่านง่าย ๆ ที่คนอื่นสามารถเดาได้ (เช่น วันเกิดของคุณ)

5.ทำลายเอกสารทางการเงินเก่า
สิ่งสุดท้ายที่คุณต้องการคือมีคนคุ้ยหาในถังขยะของคุณเพื่อขโมยข้อมูลทางการเงินส่วนบุคคลของคุณ แทนที่จะทิ้งเอกสารทางการเงินที่ละเอียดอ่อนลงถังขยะ คุณสามารถใช้ขั้นตอนเพิ่มเติมเพื่อตัดหรือใส่ในเครื่องทำลายเอกสาร เอกสารทางการเงินที่คุณควรทำลายเช่น ใบเสร็จ , ใบแจ้งยอดธนาคาร , รายงานบัตรเครดิต ค่ารักษาพยาบาล เป็นต้น

6.ลงทะเบียนเพื่อรับการแจ้งเตือนการทำธุรกรรมและวงเงินการชำระเงิน
ใช้ประโยชน์จากบริการการแจ้งเตือนธุรกรรมโดยธนาคารออนไลน์ คุณสามารถรับการแจ้งเตือนเกี่ยวกับกิจกรรมบัตรของคุณได้ตลอดเวลา เช่น ธุรกรรมที่น่าสงสัย การชำระเงินหรือการถอนเงินจำนวนมาก นอกจากนี้ การจำกัดวงเงินการชำระยังเพิ่มความปลอดภัยอีกชั้นหนึ่ง

7.อย่าพกบัตรที่ไม่ได้ใช้
หลีกเลี่ยงการพกบัตรเครดิตหรือบัตรเดบิตติดตัวไปด้วย เพื่อลดความเสี่ยงจากการถูกขโมยหรือสูญหาย ให้เลือกบัตรที่คุณต้องการใช้เท่านั้น และเก็บบัตรที่เหลืออื่นๆ ไว้ในที่ปลอดภัย

8.หลีกเลี่ยงฟิชชิ่ง
คุณสามารถค้นหาวิธีการฟิชชิงที่น่าสงสัยได้ในอีเมล โทรศัพท์ หรือข้อความ พวกเขาแอบอ้างเป็นธนาคารของคุณพยายามหลอกเพื่อขอข้อมูลส่วนบุคคลของคุณ หรือให้คุณคลิกลิงก์หรือไฟล์ที่ดาวน์โหลดที่จะเข้าไปในระบบของคุณ

9.ระมัดระวังพวกอุปกรณ์ Skimming
การเข้าใกล้เครื่องอ่านบัตรที่สามารถขโมยข้อมูลแบบ skimming เครื่องอ่านเหล่านี้จะคัดลอกข้อมูลบัตรเครดิตเมื่อเสียบบัตร หากคุณสังเกตเห็นว่าเครื่องมีลักษณะผิดปกติ ไม่ว่าจะเป็นชิ้นส่วนที่โป่งออก ไม่ตรงแนว หรือแตกหัก ให้ทบทวนอีกครั้งว่าอาจจะเป็นอุปกรณ์ที่ skimming ได้

10. ไม่ใช้บัตรใบเดียวทุกการสั่งซื้อ
การแยกค่าใช้จ่ายชำระเงินระหว่างบัตรเครดิตหลายๆ ใบเป็นวิธีที่ยอดเยี่ยมในการป้องกันหากข้อมูลถูกขโมย การอายัตอย่างรวดเร็วจะไม่เป็นเรื่องใหญ่ เพราะคุณใช้บัตรหลายใบทำให้ไม่มียอดการซื้อสินค้าทั้งหมดโดยใช้บัตรใบเดียว

11.ซื้อสินค้าบนเว็บไซต์ที่ปลอดภัยเท่านั้น
เว็บไซต์ที่ปลอดภัยมี HTTPS (Hypertext Transfer Protocol Secure) ก่อน URL — หลีกเลี่ยงการใช้อันที่ไม่มี HTTPS โดยเว็บไซต์ที่มี HTTPS จะเป็นเว็บไซต์ที่มีความปลอดภัย และเข้ารหัสข้อมูลของคุณ ดังนั้นแฮกเกอร์จึงไม่สามารถเข้าถึงคุณหรือข้อมูลทางการเงินของคุณได้

12.Wi-Fi สาธารณะอาจไม่ปลอดภัย
เป็นความคิดที่ดีที่จะหลีกเลี่ยงการใช้ Wi-Fi สาธารณะ เนื่องจากการรักษาความปลอดภัยไม่แน่นหนาเหมือนกับเครือข่ายในบ้าน ซึ่งเป็นช่องทางสำหรับมัลแวร์ที่ใช้ข้อมูล หากคุณจำเป็นต้องใช้ให้หลีกเลี่ยงการทำธุรกรรมด้วยบัตรเครดิตหรือการเข้าถึงบัญชีธนาคารของคุณ แฮกเกอร์สามารถดักจับข้อมูลบนเครือข่าย Wi-Fi และเข้าถึงข้อมูลของคุณได้

ทำอย่างไรหากคุณตกเป็นเหยื่อ ?
การฉ้อโกงบัตรเครดิตมีความซับซ้อนมากจนไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ หากคุณตกเป็นเหยื่อจำเป็นอย่างยิ่งต้องควบคุมความเสียหายที่และดำเนินการอย่างรวดเร็ว

แจ้งธนาคารเรื่องบัตรเครดิตของคุณ:
รีบติดต่อธนาคาร ซึ่งจะมีคำแนะนำให้คุณ และวิธีการยกระดับการป้องกันของบัตรเครดิต

อัปเดตข้อมูลความปลอดภัยของคุณในทุกบัญชี:
เปลี่ยนรหัสผ่าน คำถามเพื่อความปลอดภัย และ PIN เพื่อเพิ่มความปลอดภัยอีกชั้น

ปกป้องข้อมูลทางการเงินของคุณด้วย Watchguard Panda
การปกป้องข้อมูลทางการเงินของคุณเป็นสิ่งสำคัญบนโลกดิจิทัลปัจจุบัน ผลิตภัณฑ์ WatchGuard เช่น Adaptive Defense 360 ปกป้องการท่องเว็บออนไลน์ของคุณประกอบด้วยการตรวจจับพฤติกรรมเพื่อป้องกัน และบล็อกการโจมตีแบบไม่มีไฟล์ตามสคริปต์ที่ฝังอยู่ในไฟล์ Office ตัวแอปพลิเคชันสามารถตรวจจับการทำงานที่ผิดปกติที่ เพื่อป้องกันการโจมตีได้ หรือใช้ช่องโหว่จากเว็บเบราว์เซอร์ ของแอปอื่นๆ เช่น Java Adobe Reader, Adobe Flash, Office ฯลฯ เพื่อหลีกเลี่ยงค่าความปลอดภัยที่ตั้งเอาไว้ ดังนั้นคุณจึงสามารถจับจ่ายและใช้บัตรเครดิตของคุณในที่สาธารณะได้อย่างสบายใจ หากท่านสนใจทดลองใช้สามารถ ลงทะเบียนเพื่อขอทดลองได้ฟรี 30 วัน

Credit https://www.pandasecurity.com/

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *