6 เหตุผลทำไมคุณควรใช้ไฟร์วอลล์

6 เหตุผลทำไมคุณควรใช้ไฟร์วอลล์ ทุกบริษัทไม่เคยมีข้อสงสัยว่าทำไม ขอบเขตระบบเครือข่ายขยับขยายเพิ่มขึ้นทุกปี ดังนั้นการโจมตีเครือข่ายบริษัทอาจมีได้หลายรูปแบบ

เช่น ไวรัส, แบ็คดอร์, การโจมตีแบบ DoS, มาโคร, การเข้าสู่ระบบระยะไกล, อีเมลฟิชชิ่ง,social engineering และสแปม ในภาพรวมภัยคุกคามสามารถยกระดับการโจมตีให้สูงขึ้นได้อีก ทำให้ไฟร์วอลล์ยังคงมีบทบาทสำคัญในการรักษาความปลอดภัยระบบเครือข่ายและอุปกรณ์

ไฟร์วอลล์คืออะไร และช่วยให้บริษัทของคุณปลอดภัยได้อย่างไร

ไฟร์วอลล์เป็นอุปกรณ์รักษาความปลอดภัยเครือข่ายที่เป็นเกราะป้องกันระหว่างเครือข่ายภายในและภายนอก วัตถุประสงค์หลักคือเพื่อควบคุม ตรวจสอบ และกรองการรับส่งข้อมูลเครือข่ายขาเข้าและขาออกตามกฎความปลอดภัยที่กำหนดไว้

โดยกฎเหล่านี้ จะตรวจสอบแพ็กเก็ตข้อมูลและพิจารณาว่าควรอนุญาตหรือบล็อก ไฟร์วอลล์มีบทบาทสำคัญในการรักษาความปลอดภัยของเครือข่ายองค์กรในหลายๆ ด้าน

• Traffic control : ช่วยควบคุมการรับส่งข้อมูลเครือข่ายโดยการกรอง และบล็อกการเชื่อมต่อขาเข้าและขาออกที่ไม่น่าเชื่อถือหรืออาจเป็นอันตราย ซึ่งจะช่วยป้องกันการเข้าถึงข้อมูลและทรัพยากรที่ละเอียดอ่อนโดยไม่ได้รับอนุญาต
  
• ควบคุมการเข้าถึง: การนำกฎเฉพาะไปใช้ ไฟร์วอลล์สามารถจำกัดการเข้าถึงแอปพลิเคชัน บริการ หรือพอร์ตตามการอนุญาตของผู้ใช้ สิ่งนี้ทำให้มั่นใจได้ว่าเฉพาะบุคคลที่ได้รับอนุญาตเท่านั้นที่สามารถเข้าถึงทรัพยากรที่สำคัญภายในเครือข่ายของบริษัทของคุณได้
  
• แบ่งเครือข่าย: แบ่งเครือข่ายออกเป็นส่วนๆ หรือสร้างเครือข่ายย่อยที่แยกจากกัน ซึ่งช่วยแยกแผนก การบริการเครือข่าย หรือกลุ่มผู้ใช้ที่แตกต่างกัน ทำให้เกิดชั้นการรักษาความปลอดภัยเพิ่มเติม ดังนั้นหากส่วนย่อยส่วนหนึ่งถูกบุกรุก ไฟร์วอลล์สามารถป้องกันไม่ให้ผู้โจมตีย้ายจากด้านข้างไปยังส่วนย่อยอื่นๆ ได้
  
• การป้องกันการบุกรุก: ไฟร์วอลล์อาจรวมระบบป้องกันการบุกรุก (IPS) ที่ตรวจจับและบล็อกกิจกรรมเครือข่ายที่เป็นอันตรายแบบเรียลไทม์ ระบบเหล่านี้ตรวจสอบการรับส่งข้อมูลเครือข่ายและใช้กฎที่กำหนดไว้ล่วงหน้าหรือใช้ระบบการวิเคราะห์พฤติกรรมเพื่อระบุ และลดภัยคุกคามที่อาจเกิดขึ้น
  
• เครือข่ายส่วนตัวเสมือน (VPN): ไฟร์วอลล์ส่วนมากรองรับฟังก์ชัน VPN ช่วยให้พนักงานที่ทำงานผ่านระบบรีโมทหรือสำนักงานสาขาสามารถเข้าถึงเครือข่ายองค์กรผ่านการเชื่อมต่อที่เข้ารหัสได้อย่างปลอดภัย ซึ่งจะช่วยปกป้องข้อมูลที่ละเอียดอ่อนที่ส่งระหว่างสถานที่ต่างๆ
  
• การบันทึก และการตรวจสอบ: ไฟร์วอลล์มีเก็บบันทึกการรับส่งข้อมูลเครือข่าย ซึ่งอาจมีประโยชน์สำหรับการตรวจสอบและตรวจจับเหตุการณ์ด้านความปลอดภัยที่อาจเกิดขึ้น บันทึกเหล่านี้สามารถวิเคราะห์เพื่อระบุรูปแบบ ติดตามกิจกรรมที่น่าสงสัย และตรวจสอบการละเมิดความปลอดภัย

ในปัจจุบันองค์กรต่างๆ ต้องอัปเดตและกำหนดค่าไฟร์วอลล์เป็นระยะๆ เพื่อให้ทันกับภัยคุกคามด้านความปลอดภัยที่เปลี่ยนแปลงไป และเสริมระบบรักษาความปลอดภัยเหล่านี้ด้วยโซลูชันอื่นๆ ภัยคุกคามเครือข่ายมีรูปแบบต่างๆ มากมาย ดังนั้นไฟร์วอลล์ระดับองค์กรซึ่งได้รับการสนับสนุนโดยเครื่องมือมองเห็นภัยคุกคาม เช่น WatchGuard Endpoint Risk Assessment สามารถเสริมความปลอดภัยขององค์กรของคุณ เพราะป้องกันความเสี่ยงและความปลอดภัยข้อมูลเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่งในยุคปัจจุบัน ซึ่ง WatchGuard Endpoint Risk Assessment ได้แสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพในการวิเคราะห์และตรวจสอบความเสี่ยงอย่างเป็นระบบ และนำมาสร้างมาตรการป้องกันที่มั่นคงและเหมาะสมกับความเสี่ยงที่เกิดขึ้น

จึงกลายเป็นสิ่งจำเป็นการรักษาความปลอดภัยแบบรวมศูนย์บนแพลตฟอร์มเดียว ซึ่งช่วยให้บริการต่างๆ มีความสามารถในการขยายขนาดและความเร็วที่มากขึ้น ในขณะเดียวกันก็รับประกันประสิทธิภาพในการดำเนินงาน เป็นวิธีที่ดีที่สุดในการทำให้แน่ใจว่าโซลูชันเหล่านี้ได้อย่างสมบูรณ์ หากท่านสนใจสามารถขอทดลองใช้ได้ฟรี 30 วัน

Credit https://www.watchguard.com/